สมัยพุทธกาล...อุบาสก
อุบาสิกา และพุทธบริษัททั้งหลาย...ทราบว่า
บรรดาศาสนิกในลัทธิศาสนาอื่น...ล้วนมีคืนวันอันเป็นวาระพิเศษ...ที่จะได้ประกอบกิจพิธีตามลัทธิคำสอนที่ตนเองนับถือ...เหล่าพุทธศาสนิกในสมัยนั้น...จึงได้กราบบังคมทูลขออนุญาตต่อพระพุทธองค์...ให้ทรงกำหนดวันเวลาพิเศษขึ้น...เพื่อให้เหล่าสาวกได้ประกอบกิจพิธี...รักษาศีล
เจริญธรรม ตามพุทธธรรมคำสอนอย่างเคร่งครัด
พระผู้มีพระภาค
จึงทรงประทานกำหนด...
“วันธัมมัสวนะ”...หรือ...
“วันอุโบสถ”...ขึ้น
โดยเดือนหนึ่ง ๆ ให้มี ๔
วัน...แบ่งเป็น
แรม ๘ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ...กับ...ขึ้น
๘ ค่ำ และ ๑๕
ค่ำ...เป็นวันที่ชาวพุทธทั้งมวล...จะได้ประพฤติปฏิบัติตน...แบบเข้มข้นและเคร่งครัดในศีลธรรมมากกว่าวันปกติ...กล่าวคือ...เมื่อถึงวาระแห่งวันดังกล่าวนี้...เราจะได้รักษาศีลอุโบสถ
(ศีล๘)...และสดับพระธรรมเทศนา...ตลอดจนฝึกหัดภาวนาชำระจิตใจ...ให้ห่างไกลกิเลสอาสวะทั้งปวง...เรียกวันเช่นนี้ว่า...
“วันพระ”
ในอดีตประเทศไทยเราถือว่า...วันพระ
คือ
วันแห่งการทำบุญ...เป็นวันหยุดพักกิจกรรมการงานทางโลกทุกอย่าง...เพื่อให้ผู้คนได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมกัน...และในวันดังกล่าวนี้...ก็จะไม่มีการใช้แรงงานสัตว์...ไม่มีการฆ่าสัตว์...ไม่มีการละเมิดศีลใดๆ...กระทั่งว่า
คู่สามีภรรยาชาวพุทธทั้งปวง...ก็ยังมีธรรมเนียมปฏิบัติในการครองเรือนที่ดี...ไม่เสพสมร่วมหลับนอนกันในคืนวันพระด้วย...เพื่อเป็นการเคารพพระรัตนตรัย...หากแต่ปัจจุบัน...ความเชื่อถือและครรลองประพฤติของผู้คน...แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและโลกสากล...จนแทบไม่เหลือชาวพุทธที่ปฏิบัติอย่างจริงจัง...ในธรรมเนียมอันดีเหล่านี้อีกแล้ว...ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก
“วันพระ”
ในวันนี้...จึงไม่ได้เป็นอะไรพิเศษเหนือกว่าวันอื่นๆ...อย่างที่ควรจะเป็นตามพุทธประสงค์...มิหนำซ้ำชาวพุทธจำนวนมาก...อาจลืมไปทีเดียวว่า...วันไหนวันพระ
วันไหนวันปกติ...จึงดำเนินชีวิตไปตามความเคยชิน...ไม่มีโอกาสได้ฝึกอบรมจิตและฝืนใจตัวเอง...ไม่มีช่วงเวลาที่จะได้ศึกษาและปฏิบัติตนเคร่งครัดขึ้น...ตามธรรมเนียมนิยมอันงดงามของพุทธศาสนิกชนแท้
แต่อย่างไรก็ตาม...ไม่ได้เป็นความผิดหรือบาปกรรมประการใด...ที่ความจำเป็นในชีวิต...มาทำให้พวกเราห่างไกลจากกิจกรรมทางศาสนาในวันพระ...ขอเพียงเราชาวพุทธทุกคน...มีจิตเคารพเลื่อมใสพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์
ตลอดเวลา...ประพฤติตนให้อยู่ในกรอบของศีลธรรมอันดี...ตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน...มีการไหว้พระสวดมนต์
ทำจิตให้สงบ
แผ่เมตตา...ก่อนนอนและตื่นนอนทุกวัน...เพียงเท่านี้...ก็ถือว่า...เราไม่ใช่ผู้อยู่ห่างไกลพระบรมศาสดาแล้ว...ความสุขกายสบายใจ...ก็จะเกิดขึ้นในชีวิตเราอย่างน่าอัศจรรย์...เหตุเพราะบุญบันดาล...และอานุภาพพระรัตนตรัย
คอยหนุนส่งให้เป็นไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น